ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะแยก “แป้งทำขนม” ไม่ถูก

    เราเป็นคนนึงที่เคยเจอกับปัญหานี้ เกิดขึ้นช่วงสมัยเรียน แล้วที่แย่กว่านั้น คือ เรียนทำอาหาร วันนั้นมีวิชาอาหารไทยเป็นเมนูง่าย ๆ คือ “ผัดกะเพรา” คิดในใจ ไม่มีอะไรง่ายสำหรับการเรียนอีกแล้ว!!!!! แน่หละ ไม่เคยทำกับข้าวเลยนี่หว่า มันจะไปรู้อะไร ก่อนถึงวิชาเรียนก็ไปตลาดสดแถว ๆ โรงเรียนนั่นแหละ คือ ปากคลองตลาด เดินเลือกอยู่นาน แล้วก็เลือกด้วยความมั่นใจมาก หยิบของปุ๊บ จ่ายเงินปั๊บ พอเดินกลับมาที่โรงเรียนปรากฎว่า หยิบใบโหระพามา!!!! มันไม่ใช่ใบกะเพราอย่างที่เข้าใจ เรื่องนี้ก็โดนเพื่อนประนามอยู่หลายวัน แต่ดีที่อาจารย์ไม่รู้ ถ้ารู้ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะ……เป็นยังไงต่อไป
ภาพหน้าปกบทความ

    อ้าววว….เล่ามาขนาดนี้เกี่ยวอะไรกับ “แป้งทำขนม” หละ เกี่ยวสิใครเป็นมือใหม่หัดอบยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้ มือใหม่หัดอบไม่พอไปเปิดสูตรจะทำขนมดู เตรียมลงมือและวันนี้ไปซื้อของมาเตรียมไว้ก่อน เป็นยังไงต่อหนะเหรอ เปิดสมุดจดสูตรแปบนึง อ่านแล้วในสูตรบอกว่า “แป้งสำหรับทำเค้ก” โอเคเก็บไว้ในใจ พอไปถึงร้านขายวัตถุดิบเบเกอรี่ เกิดอาการเลิกลั่กทันที อะไรคะเนี่ย!!!!!!อันนี้แป้งทำขนมอะไรบ้าง? ที่อยู่บนชั้นวางที่อยู่ตรงหน้า เป็นเหมือนกันใช่ไหม จะถามคนขายก็ไม่กล้าไง เราต้องแสดงความมั่นหน้ามั่นใจไว้ก่อนว่าฉันเนี่ยแหละ “นักอบขนมมือทอง” ฉันเลือกแป้งทำขนมถูก ก็เดินเขิน ๆ ไปพักนึง เลือกซื้อวนไปในร้านต่อ เอาหละแล้วมันเกี่ยวอะไรกัน คราวนี้จะมาช่วยแยก “แป้งทำขนม” ให้เคลียกันไปข้างนึงเลย ขออธิบายเฉพาะเบเกอรี่ก่อนแล้วกัน ฉบับเข้าใจง่าย เริ่มเลยนะ!!!! 

    แป้งบนชั้นวางที่ว่าหนะมีหลายยี่ห้อมาก เข้าใจแหละสับสนแน่มือใหม่หัดอบ คือตอนเรียนงะ อาจารย์บอกชื่อแค่ยี่ห้อ ไอเราก็ไม่เคยเห็นฉลากหรือโลโก้ หน้าตามันเป็นไง เพราะแป้งทำขนมอยู่ในถังใส่แป้งอีกที แล้วยิ่งตอนนี้มีเป็น 10 ยี่ห้อ เป็นไงมือใหม่จะรอดไหม?

    แป้งสาลีที่ใช้สำหรับทำเบเกอรี่ จะแบ่งออกมาเป็น 3 ประเภท 

    1.แป้งสาลีทำเค้ก (Cake Flour)
    2.แป้งสาลีทำขนมปัง (Bread Flour)
    3.แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All puroose Flour)

    ประเภทที่ 3 ยากสุดนึกดี ๆ นะอเนกประสงค์ทำได้ทุกอย่างแหละ มาเริ่มกันที่ชนิดที่ 1 

    1.แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก (Cake flour) คือแป้งสาลีที่ทำจากข้าวสาลีชนิดอ่อน มีโปรตีนบาง ๆ อยู่ที่ 7-9% มีความเบา สีขาว เนื้อแป้งเนียนละเอียดนุ่มนิ่ม สิ่งแรกที่ให้นึกถึง คือ การทำเค้ก เราต้องเลือกแป้งที่มีโปรตีนต่ำ เพราะแป้งชนิดนี้ถูกนำไปผ่านการฟอกสี จึงทำให้แป้งสามารถดูดซึมน้ำ น้ำตาล และไขมันได้มาก เพราะความโปร่งเบาของแป้ง 

    แป้งชนิดนี้จึงเหมาะกับการทำเค้กทุกชนิด หรือคุกกี้บางชนิดที่ต้องการความนุ่ม และสารที่จะช่วยทำให้แป้งเค้กขึ้นฟูได้ดี ใช้ได้กับผงฟู หรือเบคกิ้งโซดาเท่านั้น 

    ยี่ห้อที่เห็นในร้านขายวัตถุดิบเบเกอรี่ คือ แป้งตราพัดโบก,แป้งตราบัวแดง,แป้งตรามงกุฎม่วง 
แป้งสาลี สำหรับทำเค้ก (Cake Flour)

    2.แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง (Bread flour) คือแป้งสาลีที่ทำจากข้าวสาลีชนิดชนิดแข็ง โปรตีนสูงปรี๊ดที่มีมากถึง 12-14% เนื้อหยาบ สีเข้มกว่าแป้งสาลีชนิดอื่น สีออกครีม ๆ เวลาเรานึกถึงเนื้อขนมปัง จะมีความยืดและโพรงอากาศคล้ายฟองน้ำแล้วเวลากินก็นุ่ม เพราะว่าแป้งทำขนมปัง มีการดูดซึมน้ำสูง ประกอบกับโปรตีนในแป้งสูง แป้งจึงมีความยืดหยุ่นดี 

    แป้งชนิดนี้จึงเหมาะกับการทำขนมปัง,พิซซ่า,ครัวซองค์,เดนิช ส่วนสารเสริมที่ช่วยทำให้ขนมปังมีคุณภาพดี คือ ยีสต์

    ยี่ห้อที่เห็นในร้านขายวัตถุดิบเบเกอรี่ คือ แป้งตราหงส์ขาว 

แป้งสาลี สำหรับทำขนมปัง (Bread Flour)

    3.แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All purpose flour) เป็นแป้งสาลีที่ทำจากข้าวสาลีชนิดแข็งและชนิดอ่อน ในสัดส่วนที่เหมาะสม โปรตีนก็จะกลาง ๆ อยู่ที่ 10-11% ลักษณะเนื้อแป้งให้นึกภาพว่าแป้งขนมปังกับแป้งเค้กรวมกัน เหมาะกับชื่อคืออเนกประสงค์ การดูดซึมน้ำก็ปานกลาง ดังนั้น อาการของแป้งที่กลาง ๆ นี่แหละทำให้นำแป้งชนิดนี้ไปทำขนมได้หลากหลายประเภท

    เช่น คุกกี้,พาย,โดนัท เค้กบางชนิด ส่วนสารเสริมคุณภาพที่จะช่วยให้แป้งนี้ทำงานได้ดี คือ ผงฟู,เบคกิ้งโซดา และยีสต์ 
    
    ยี่ห้อที่เราเห็นในร้านขายวัตถุดิบเบเกอรี่ คือ แป้งตราว่าว 
แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All purpose Flour)

    คราวนี้เลือกช็อปได้ตามใจชอบกันแล้วใช่ไหม หยิบไม่ผิดกันแล้วนะ แต่จะเป็นยี่ห้ออะไรที่อยู่บนชั้นวางก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจในแบรนด์นั้น ๆ ของตัวเองนะจ๊ะ แล้วเรื่องใบกะเพรา กับใบโหระพา จะมาเล่าให้ฟังทำไมเนี่ยของคาวกับของหวาน ผู้เขียน (ทราย) เพียงแค่อยากจะยกตัวอย่างมาเท่านั้นค่ะ เวลาเราเห็นอะไรที่คล้าย ๆ กัน มันก็เกิดความสับสนได้ หยิบผิดหยิบถูก เดี๋ยวกลัวจะเป็นเหมือนกันคือ จ่ายเงินซื้อของกลับมาบ้านแล้ว จะลงมือทำอ้าวววว……หยิบผิด คราวนี้เสียทั้งเวลากลับไปซื้อใหม่ แถมยังเสียต้นทุนในการทำขนมอีก แต่ถ้าไม่คิดมากก็เก็บแป้งที่ซื้อมาผิด เอาไว้ก่อนแล้วก็แค่แพลนเมนูขนมที่จะฝึก เป็นเมนูต่อไปรอไว้เลย แบบนี้ก็ดูเข้าท่าอยู่ไม่น้อย ใช่ไหมคะ?

ความคิดเห็น