เปลี่ยนจากงานที่ไม่ชอบ ให้กลายเป็นงานที่รักได้อย่างไร?
การเริ่มต้นของบล็อกนี้สร้างขึ้นมา เพื่อจะแบ่งปันประสบการณ์ทำขนมส่วนตัว และจากประสบการณ์ในการทำงานสายงานเบเกอรี่ ซึ่งตัวเองนั้นไม่ได้เป็นผู้หลงใหลในสายงานนี้แต่อย่างใด แต่ท้ายที่สุดก็ตกหลุมรักงานนี้ และพ่ายแพ้ต่อความสวยงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในงานเบเกอรี่ล้วน ๆ เลย
เรื่องเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ เกิดจากเพื่อนสนิทของเราเอง ที่เรียนสายอาชีพมาด้วยกัน และเลือกสาขาอาหารและโภชนาการ จะว่าไปแล้วเพื่อนสนิทเรานั้นชื่นชอบวิชาเบเกอรี่มาก แต่ที่น่าแปลกคือเพื่อนกินขนมได้อย่างเดียว และอร่อยที่สุดคือ "เค้กช็อกโกแลต" ที่จริงเราเรียนสายอาชีพนี้เหมือนกัน แต่ความแตกต่างคือ เราสามารถกินผลไม่ได้ทุกชนิด และชอบรสชาติอาหารที่หลากหลาย แต่เพื่อนของเรานั้นมักจะไม่ค่อยชอบอะไร หรือจะพูดง่าย ๆ ว่าแทบจะไม่รู้จักอาหารเลย
และด้วยความที่เพื่อนสนิทของเรานั้น ชอบวิชาเบเกอรี่มาก เพื่อนก็เริ่มชวนเราทำในสิ่งที่ชอบและสนใจ จากนั้นพวกเราก็เริ่มสะสมอุปกรณ์บางอย่างตามวัยที่เราพอจะซื้อได้ สิ่งที่ทำได้ในช่วงนั้น คือ "การอดค่าขนม" เพื่อแลกกับอุปกรณ์ทำขนมที่จะซื้อมาเก็บไว้ สำหรับมาฝึกทำขนมด้วยกัน ทุกครั้งที่มีชั่วโมงเรียนว่าก่อนถึงคาบเรียนถัดไป พวกเราจะต้องไปพาหุรัด เพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์เบเกอรี่มาเตรียมไว้
พวกเรายังคงสนุกกับการทำขนมที่กินได้บ้าง และกินไม่ได้บ้าง เพราะตอนที่เราเรียนกับอาจารย์และกลับมาฝึกฝนทำขนมที่บ้าน "ย่อมพัง!!!!!" ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับความเข้าใจในการอ่านสูตรและวิธีทำ,การเลือกวัตถุดิบ และอุปกรณ์ที่ใช้งาน แน่นอนแหละว่าพวกเราร้อนวิชา แต่ก็กล้าลงมือทำโดยที่ไม่รู้ผลลัพธ์เลยแม้แต่น้อย
![]() |
ครั้งแรกกับการทำงาน Food & Prop Stylist |
แต่ทุกคนรู้ไหมจน ณ เวลานี้เรายังคงไปต่อกับสายงานเบเกอรี่ และเพื่อนของเรานั้นได้เลิกล้มการทำขนมไปแล้ว และเราก็เกิดโรคใหม่ซึ่งในวงการนี้เรียกว่า "โรคอุปกรณ์งอก" เพราะอะไรหนะเหรอ? ก็เวลาที่อยากทำเมนูใหม่ ๆ สิ่งที่ตามมาก็คือ ต้องซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้กับขนมเมนูนั้น เพื่อมาฝึกทำขนม จนตอนนี้อุปกรณ์ทำขนมเต็มบ้าน เรียกได้ว่าถ้าเปิดร้านขายหละก็ เลือกสรรทุกสิ่งได้ตามใจคุณเลย
และในช่วงเวลาที่เราเองเริ่มฝึกทำเบเกอรี่กับเพื่อนนั้น ทำให้เราได้รับประโยชน์ดี ๆ มากมายจากเพื่อนสนิท และกำลังใจของทุกคนในครอบครัว แต่หารู้ไหมว่างานเบเกอรี่ที่แสนจะเหนื่อยมาก และไม่เคยคิดจะอยากเดินทางนี้ แต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นสายงานที่เรานั้นทำได้ดีที่สุด และเข้าใจในเนื้องานมากขึ้น
แต่เมื่อมาถึงวันนี้ต้องขอบคุณประสบการณ์ที่ได้ฝึกหัดมาตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 20 ปีในวงการทำเบเกอรี่ และเลือกทำงานในสายงานนี้ในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อศึกษาที่จะวางแผนการทำธุรกิจเบเกอรี่ ตอนนี้เราก็ได้ทำธุรกิจและได้ออกแบบการทำงานให้กับตัวเอง ทั้งเปิดสอนทำขนม,ทำเบเกอรี่สไตล์โฮมเมด และมีเครื่องดื่มแบบร้านกาแฟเลย และโปรเจคชิ้นใหญ่ที่สุดคือ "การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร" หรือ "คิดค้นสูตรขนม" นั่นแหละที่เรียกว่าพีคที่สุดของการทำงานนี้ เพราะไม่เคยคิดว่าจะได้ทำงานนี้ ขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคน ๆ นึง ที่ไม่มีชื่อเสียงเลย แต่ได้ร่วมงานกับผู้บริหารที่มีธุรกิจหลายสาขา เป็นผู้ให้ประสบการณ์ในการทำงานจริง ๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น